1. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานธุรกิจ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับระบบงานในองค์กรเเละงานด้านบริหารในโลกยุคใหม่มีการเเข่งขันอย่างรุนเเรง ยุคของการค้ารูปเเบบใหม่โดย ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อเพิ่มช่องทางการค้าขาย
2.ความหมายของอีคอมเมอร์ซ (E-Commerce)
อีคอมเมิร์ซ หรือชื่อเเปลเป็นไทยว่า "พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์" หมายถึงการดำเนินธุรกิจซื้อขายโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์เเละคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ E-Business อ่านว่า อี-บิสีเน็ส หมายถึงการทำกิจกรรมทุก ๆ อย่างทุกขั้นตอนผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
3.ความเป็นมาของอีคอมเมิร์ซ
ปัจจุบันยังคงมีการเเลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าบริษัทด้วยการใช้ระบบไปรษณีย์ เเละอีหลายบริษัทใช้วิธีป้อนข้อมูลลงในโปรเเกรมเเบบฟอร์มทางธุรกิจไม่ว่าเป็นใบสั่งซื้อใบสิรค้า ใบเสร็จรับเงินเเละจัดพิมพ์ข้อมูลออกทางเครื่องพิมพ์
4.ประโยชน์ของอีคอมเมิร์ซ
ประโยชน์ของอีคอมเมิร์ซต่อบุคคล มีดังนี้
1.มีสินค้าเเละ บริการราคาถูกจำหน่าย
2.ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ่น
3.สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4.ทราบ้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเเละบริการได้ในเวลาที่รวดเร็ว
5.ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าตรงตามความต้องการมากที่สุด
6.สนับสนุนการประมูลเสมือนจริง
7.ทำให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับลูกค้าสามารถติดต่อกับลูกค้ารายอื่นในการเเลกเปลี่ยนความคิดเห็น
8.ทำให้เกิดการเชื่อมโยงการดำเนินงานภายในโซ่มูลค่า
ประโยชน์ของอีคอมเมิร์ซต่อองค์การธุรกิจ มีดังนี้
1.ขยายตลาดในระดับประเทศเเละระดับโลก
2.ทำให้บริการลูกค้าได้จำนวนมากทั่วโลกด้วยต้นทุนที่ต่ำ
3.ลดปริมาณเอกสารเกี่ยวกับการสร้าง การประมวณ การกระจาย การเก็บเเละการดึงข้อมูลได้ถึงร้อยละ90
4.ลดต้นทุนการสื่อสารโทรคมนาคม เพราะอินเทอร์เน็ตราคาถูกกว่าโทรศัพท์
5.ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กสามารถเเข่งขนกับบริษัทขนาดใหญ่ได้
6.ทำให้การจัดการผลิตมีประสิทธิภาพยิ่งขึ่น
ประโยชน์อีคอมเมิร์ซต่อสังคม มีดังนี้
1.สามารถทำงานที่บ้านได้ ทำให้มีการเดินทางน้อยลง
2.การซื้อขายสินค้าราคาถูกลง
ประโยชน์ระบบเศรษฐกิจ มีดังนี้
1.กิจการ smes ในประเทศกำลังพัฒนาอาจได้ประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดที่กว้างขวางในระดับโลก
2.ทำให้กิจการในประเทศกำลังพัฒนาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้
3.บทบาทของพ่อค้าคนกลางลดลง ทำให้ต้นทุนการซื้อขายลดลง
4.ทำให้ประชาชนในชนบทได้หาสินค้าหรือบริการได้เช่นเดียวกับในเมือง
5.เพื่มความเข้มข้นของการเเข่งขัน ทำให้เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค
5ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซ
ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซด้านเทคนิค มีดังนี้
1.ขาดมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ ความปลอดภัยเเละความน่าเชื่อถือ
2.ความกว้างของช่องทางการสื่อสารมีจำกัด
3.ซอฟต์เเวร์อยู่ระหว่างกำลังพัฒนา
4.ปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างอินเทอร์เน็ตเเละซอฟต์เเวร์ของอีคอมเมิร์ซกับเเอพพลิเคชั่น
5.ต้องการ Web Server เเละ Networt Server ที่ออกเเบบมาเป็นพิเศษ
6.การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังมีราคาเเพงเเละไม่สะดวก
ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซด้านกฎหมาย มีดังนี้
1.กฎหมายที่สามารถคุ้มครองการทำธุรกรรมข้ามรัฐหรือข้ามประเทศ ไม่มีมาตรฐานที่เหมือนกัน เเละมีลักษณะที่เเตกต่างกัน
2.การใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือลายมื่อชื่ออิเล็กทรอนิกส์จะมีผลทางกฎหมายหรือไม่
3.ปัญหาเกิดจากการทำธุรกรรม เช่น การส่งสินค้ามีลักษณะเเตกต่างจากที่โฆษณาบนอินเทอร์เน็ต จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่
ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซด้านธุรกิจ มีดังนี้
1.วงจรผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) จะสั้นลงเพราะการเข้าถึงข้อมูลทำได้ง่ายเเละรวดเร็ว
2.ความพร้อมของภูมิภาคต่างๆ
3.ภาษีเเละค่าธรรมเนียมจาก E-Commerce
4.ต้นทุนในการสร้าง E-Commerce
5.ประเทศกำลังพัฒนาต้องลงทุนทางด้านเทคโนโลยีสูงมาก
6.เงินสดอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เกิดการฟอกเงินได้ง่าย
ข้อจำกัดของอีคอมเมิร์ซด้าน อื่นๆ มีดังนี้
1.การให้ข้อมูลที่เป็นเท็จบนอินเทอร์เน็ต
2.สิทธิส่วนบุคคล ระบบบการจ่ายเงินหรือการให้ข้อมูลของลูกค้า
3.E-Commerce เหมาะกับระบบเศรษฐกิจที่สามารถเชื่อถือเเละไว้วางใจได้ทั้งผู้ซื้อเเละผู้ขาย
4.ยังไม่มีการประเมินผลการดำเนินงาน
5.จำนวนผู้ซื้อ/ผู้ขายที่ได้กำไรหรือประโยชน์จากE-Commerce ยังมีจำกัด
6โครงสร้างพื้นฐานของอีคอมเมิร์ซ
การนำอีคอมเมิร์ซ มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ จำเป็นต้องอาศัยพื้นฐานของเทคโนโลยี เเบ่งเป็นองค์ประกอบหลักได้5 ส่วน
1.การบริการทั่วไป เป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกเเละรวดเร็ว
2.ช่องทางการติดต่อสื่อสาร เป็นช่องทางติดต่อสื่อสาร
3.รูปเเบบของเนื้อหา เป็นการจัดรูปเเบบเนื้อหาเพื่อการนำเสนอสินค้า
4.ระบบเครือข่าย เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ตั่งเเต่2 เครื่องขึ่นไป
5.ส่วนประสานกับผู้ใช้ เป็นส่วนที่ใช้ในการติดต่อระหว่างผู้ใช้บริการผ่านโปรเเกรม Web
7.ประเภทของอีคอมเมิร์ซ
อีคอมเมิร์ซ สำหรับธุรกิจค้ากำไร สามารถเเบ่งตามความสัมพันธ์ออกได้6ประเภท
1.เเบบธุรกิจกับธุรกิจ
เป็นเเบบทำธุรกรรมการค้าระหว่างผู้ประกอบกับผู้ประกอบ
2.เเบบธุรกิจกับผู้บริโภค
เป็นรูปเเบบของการทำธุรกรรมทางการค้าระหว่างผู้ประกอบกับผู้บริโภคโดยตรง
3.เเบบผู้บริโภคกับผู้บริโภค
เป็นรูปเเบบของการทำธุรกิจกรรมทางการค้าระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคโดยตรง
4.เเบบผู้บริโภคกับธุรกิจ
เป็นรูปเเบบของการทำธุรกรรมทางการค้าระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบการ
5.เเบบธุรกิจกับรัฐบาล
เป็นรูปเเบบการจำหน่ายสินค้าเเละบริการโดยตรงจากผู้ค้ากับรัฐบาล
6.เเบบโมบายคอมเมิร์ซ
เป็นรูปเเบบการค้าในระบบไร้สาย
8.ขั้นตอนการค้าเเบบอีคอมเมิร์ซ
การทำธุรกิจในระบบอีคอมเมิร์ซ มีขั้นตอน 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.เเนะนำสินค้า/บริการด้วยการออกเเบบเเละจัดทำเว็บไซต์ โดยจัดทำขึ่นเองหรือใช้บริการจากบริษัทที่รับออกเเบบเเละจัดทำเว็ปไซต์
2.สั่งซื้อสินค้าเเละบริการ เมื่อผู้ซื้อพบสินค้า หรือบริการที่ต้องการก็จะดูรายละเอียดปลีกย่อยที่เกี่ยวข้องว่าสินค้าหรือบริการเป็นอย่างไร
3.การชำระค่าสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต เมื่อรายการสินค้าหรือบริการถูกส่งไป การชำระค่าสินค้าก็จะเป็นไปตามทางเลือกของระบบอีคอมเมิร์ซื้ผู้ขายได้จัดทำไว้
4.การจัดส่งสินค้าหรือบริการหลักจากที่มีการตกลงวิธีการชำระค่าสินค้า หรือบริการเเละวิธีการจัดส่งเเล้ว
วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ นางสาวอุ้มขวัญ นามสกุล ม่วงศรี
เกิดวันที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ. 2534
ที่อยู่ปัจจุบัน 122/34 ถ. บางขุนนนท์ ข.บางกอกน้อย จ. กรุงเทพฯ 10700
สุขภาพ แข็งแรงดีไม่มีโรค
โรคประจำตัว ไม่มี
เคยแพ้ยา ไม่เคย
บิดาชื่อ - สกุล – มือถือ -
มารดาชื่อ นางสาวบัวทิพย์ นามสกุล ม่วงศรี มือถือ 0837522639
อาจารย์ที่ปรึกษา อ.อำภา ธรรมโยธิน
มือถืออาจารย์ที่ปรึกษา 0814134242
เลขที่สัญญากองทุนเพื่อการศึกษา
เลขที่บัตรประชาชน 1440900149188
เกิดวันที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ. 2534
ที่อยู่ปัจจุบัน 122/34 ถ. บางขุนนนท์ ข.บางกอกน้อย จ. กรุงเทพฯ 10700
สุขภาพ แข็งแรงดีไม่มีโรค
โรคประจำตัว ไม่มี
เคยแพ้ยา ไม่เคย
บิดาชื่อ - สกุล – มือถือ -
มารดาชื่อ นางสาวบัวทิพย์ นามสกุล ม่วงศรี มือถือ 0837522639
อาจารย์ที่ปรึกษา อ.อำภา ธรรมโยธิน
มือถืออาจารย์ที่ปรึกษา 0814134242
เลขที่สัญญากองทุนเพื่อการศึกษา
เลขที่บัตรประชาชน 1440900149188
วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
html
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของนางสาวอุ้มขวัญ ม่วงศรี
เว็บไซต์ | รายละเอียด |
![]() | www.utaitip.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บเกี่ยวกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์อุทัยทิพย์ | |
www.utaitip.com | |
![]() | www.zheza.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บเกี่ยวกับความบรรเทิงมีทั้งเกมส์และฟังเพลงเป็นเว็บของค่ายเพลงกามิกาเซ่ | |
www.zheza.com | |
![]() | www.yenta4.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บเกี่ยวกับความบรรเทิงการเขียนไดอารี่เป็นต้น | |
www.yenta4.com | |
![]() | เว็บ1 |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บของโฟร์นักร้องของค่ายกามิกาเซ่ | |
www.fourfan.com | |
![]() | www.4shared.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บสำหรับโหลดเพลง | |
www.4shared.com | |
![]() | www.missteenthailand.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บการประกวดMissteenthailand | |
www.missteenthailand.com | |
![]() | www.ch7.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บของการบบรเทิงช่อง7สี | |
www.ch7.com | |
![]() | www.kapook |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บเกี่ยวกับการบรรเทิงทั่วไป | |
www.kapook.com | |
![]() | www.sanook.com |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บเกี่ยวกับการบรรเทิงทั่วไป | |
www.sanook.com | |
![]() | www.toeyclub.net |
หน่วยงาน1 | |
เป็นเว็บของเต้ยMissUtaitip | |
www.toeyclub.net |
แบบฝึกหัดบทที่ 3
ตอนที่1 จงเติมคำหรือข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1.องค์ประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร และ ข้อมูล/สารสนเทศ
2.การทำงานของฮาร์ดแวร์แบ่งออกเป็น 5 หน่วย ได้แก่. หน่วยนำข้อมูล เข้าหน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง และหน่วยแสดงผล
3.หน่วยนำข้อมูลเช้า (input unit) ทำหน้าที่…รับข้อมูลหรือคำสั่งจากผู้ใช้เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แล้ว นำไปประมวลผล
4.หน่วยประมวลผลกลางคือ..สมองของพีซีที่ควบคุมการทำงานทั้งระบบ มีองค์ประกอบคือ หน่วยควบคุม หน่วยคำนวณและตรรกะ
5.หน่วยความจำหนักมี 2 ประเภท ได้แก่ rom และ ram
6.หน่วยความจำถาวร(rom)คือ หน่วยความจำที่เก็บชุดคำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงาน
7.หน่วยความจำชั่วคราว (ram)คือ หน่วยความจำความเร็วสูงซึ่งเป็นที่เก็ปโปรแกรมและข้อมูลในคอมพิวเตอร์
8.หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง(secondary storage) มีหน้าที.เก็บข้อมูลในรูปของสื่อต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้งานในอนาคต
9.ซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์
10.พื้นฐานการทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วย 1หน่วยประมวลผลกลาง 2หน่วยความจำหลัก3หน่วยความจำสำรอง 4หน่วยรับและแสดงผลข้อมูล 5ระบบบัส
ตอนที่2
จงทำเครื่องหมายกากบาท X ลงหน้าที่ถูกต้องที่สุด
1.ข้อใดคืออุปกรณ์รับข้อมูล
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
2.อุปกรณ์ข้อใดสามารถแสดงผลของข้อมูลและนำเข้าข้อมูลได้
ตอบ ง.เครื่องอ่านบาร์โคด
3.หน่วยประมวลผลกลางมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
4.การแสดงผลข้อมูลบนจอภาพมีกี่ลักษณะ
ตอบ ก.2ลักษณะ
5.ข้อใดคือการทำงานแบบเท็กซ์โหมด
ตอบ ข.แสดงผลเฉพาะตัวอัษร
6.เมนบอร์ด(manibord)คืออะไร
ตอบ ง.แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
7.ข้อใดคือลักษณะของจอแบบซีอาร์ที
ตอบ ก.การทำงานอาศัยหลอดแก้วแสดงผล
8.ซอฟต์แวร์ระบบคืออะไร
ตอบ ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
9.ข้อใด ไม่ใช่ การทำงานของระบบปฏิบัติการ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
10.ข้อใดคือระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์ส
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
11 solaris หมายถึงอย่างไร
ตอบ ก.ระบบปฏิบัตการเครือข่าย
12.โปรแกรมยูทิลิตี้ หรือเรียกกันว่าอย่างไร
ตอบ ข.โปรแกรมอรรถประโยชน์
13.ยูทิลิตี้ข้อใดติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการวินโดวส์
ตอบ ก.โปรแกรม Windows Explrer
14.ข้อใดคือโปรแกรมสำเร็จรูปด้านธุรกิจ
ตอบ ง.Microsoft Excel
15.ข้อใดคือส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลาง
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
1.องค์ประกอบพื้นฐานของระบบคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บุคลากร และ ข้อมูล/สารสนเทศ
2.การทำงานของฮาร์ดแวร์แบ่งออกเป็น 5 หน่วย ได้แก่. หน่วยนำข้อมูล เข้าหน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลัก หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง และหน่วยแสดงผล
3.หน่วยนำข้อมูลเช้า (input unit) ทำหน้าที่…รับข้อมูลหรือคำสั่งจากผู้ใช้เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แล้ว นำไปประมวลผล
4.หน่วยประมวลผลกลางคือ..สมองของพีซีที่ควบคุมการทำงานทั้งระบบ มีองค์ประกอบคือ หน่วยควบคุม หน่วยคำนวณและตรรกะ
5.หน่วยความจำหนักมี 2 ประเภท ได้แก่ rom และ ram
6.หน่วยความจำถาวร(rom)คือ หน่วยความจำที่เก็บชุดคำสั่งที่ใช้ในการเริ่มต้นการทำงาน
7.หน่วยความจำชั่วคราว (ram)คือ หน่วยความจำความเร็วสูงซึ่งเป็นที่เก็ปโปรแกรมและข้อมูลในคอมพิวเตอร์
8.หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง(secondary storage) มีหน้าที.เก็บข้อมูลในรูปของสื่อต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้งานในอนาคต
9.ซอฟต์แวร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ซอฟต์แวร์ระบบ 2.ซอฟต์แวร์ประยุกต์
10.พื้นฐานการทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วย 1หน่วยประมวลผลกลาง 2หน่วยความจำหลัก3หน่วยความจำสำรอง 4หน่วยรับและแสดงผลข้อมูล 5ระบบบัส
ตอนที่2
จงทำเครื่องหมายกากบาท X ลงหน้าที่ถูกต้องที่สุด
1.ข้อใดคืออุปกรณ์รับข้อมูล
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
2.อุปกรณ์ข้อใดสามารถแสดงผลของข้อมูลและนำเข้าข้อมูลได้
ตอบ ง.เครื่องอ่านบาร์โคด
3.หน่วยประมวลผลกลางมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง
ตอบ ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
4.การแสดงผลข้อมูลบนจอภาพมีกี่ลักษณะ
ตอบ ก.2ลักษณะ
5.ข้อใดคือการทำงานแบบเท็กซ์โหมด
ตอบ ข.แสดงผลเฉพาะตัวอัษร
6.เมนบอร์ด(manibord)คืออะไร
ตอบ ง.แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
7.ข้อใดคือลักษณะของจอแบบซีอาร์ที
ตอบ ก.การทำงานอาศัยหลอดแก้วแสดงผล
8.ซอฟต์แวร์ระบบคืออะไร
ตอบ ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
9.ข้อใด ไม่ใช่ การทำงานของระบบปฏิบัติการ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
10.ข้อใดคือระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์ส
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
11 solaris หมายถึงอย่างไร
ตอบ ก.ระบบปฏิบัตการเครือข่าย
12.โปรแกรมยูทิลิตี้ หรือเรียกกันว่าอย่างไร
ตอบ ข.โปรแกรมอรรถประโยชน์
13.ยูทิลิตี้ข้อใดติดตั้งมากับระบบปฏิบัติการวินโดวส์
ตอบ ก.โปรแกรม Windows Explrer
14.ข้อใดคือโปรแกรมสำเร็จรูปด้านธุรกิจ
ตอบ ง.Microsoft Excel
15.ข้อใดคือส่วนประกอบของหน่วยประมวลผลกลาง
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
บทที่ 2 ความหมายและประเภทของคอมพิวเตอร์
1 ความหมายของคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ (computer) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่าน เเละบันทึกข้อมูลตลอดจนรับคำสั่ง เพื่อเเก้ไขปัญหาหรือทำการคำนวณที่สลับซับซ้อน เเสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เเละเเม่นยำ2ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ปัจจุบันคอมพิวเตอร์สามารถนำมาเชื่อมต่อกับ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้ามาใช้เเละเเลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่าย เช่น เชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตคอมพิวเอตร์มีบทบาทเเละความสำคัญกับชีวิตประจำวันของมนุษย์เเทบทุกสายงานที่ต้องนำเอาคอมพิวเตอร์เข้าไปใช้งาน โดยสังเกตได้จากศัพท์ที่มีคำนำหน้าโดยใช้อักษรย่อ "E" มีเพื่มขึ่นเรื่อยๆ เช่น
e-banking ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์e-service บริการออนไลน์e-learning การเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์e-society การพัณนาด้านสังคมe-government การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเเลพการสื่อสารมาใช้ประโยชน์ในการบริการตัวอย่างประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ที่นิยมเอาไปใช้ในงานด้านต่างๆ1.คอมพิวเตอร์กับการใช้งานของภาครัฐ2.คอมพิวเตอร์กับงานธุรกิจทั่วไป3.คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน4.คอมพิวเตอร์กับงานด้านการศึกษา5.คอมพิวเตอร์กับธุรกิจการนำเข้าเเละส่งออกสินค้า6.คอมพิวเตอร์กับงานธนาคาร7.คอมพิวเตอร์กับงานวิทยาศาสตร์8.คอมพิวเตอร์กับงานการเเพทย์3ประเภทของคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ที่เเตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน การจำเเนกประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งคอมเตอร์โดยทั่วไปอาจจำเเนกประเภทออกได้ 2 กลุ่ม ดังนี้1.เเบ่งตามลักษณะของข้อมูล มี 3 ประเภท คือ1.1 อนาล็อกคอมพิวเอตร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ่นเป็นพิเศษใช้กับงานเฉพาะอย่าง การทำงานใช้หลักการวัด ข้อมูลที่ป้อนเข้าไปต้องเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าที่มีค่าต่อเนื่อง
1.2ดิจิตอลคอมพิวเอตร์
เป็นคอมพิวเอตร์ที่ทำงานโดยใช้หลักการนับ ข้อมูลที่ป้อนกันเข้าไปต้องเป็นตัวเลขเเละให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขดีจิตอล
1.3ไฮบริดคอมพิวเอตร์
เป็นคอมพิวเอตร์ที่ใช้กับงานเฉพาะอย่าง การทำงานจะใช้เทคนิคของอนาล็อก เเละดิจิตอลมาผสมกัน
2เเบ่งตามขนาดเเละความสามารถ มี 5 ประเภท คือ
2.1ซูเปอร์คอมพิวเอตร์ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงที่สุด เเละราคาเเพงที่สุด
2.2เมนเฟรมคอมพิวเอตร์ เป้นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทำงานกับอุปกรณ์หลายๆ อย่างด้วยความเร็วสูงใช้งานธุรกิจขนาดใหญ่
2.3มินิคอมพิวเอตร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่สรางขึ่นเพื่อใช้กับงานเฉาะอย่าง เช่น ใช้ในการสื่อสารข้อมูล
2.4ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด เพราะมีราคาถูก มักเรียกไมโครคอมพิวเตอร์ว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
2.5คอมพิวเตอร์มือถือ คอมพิวเตอร์มือถือมีมานานเเล้ว ตั่งเเต่ เเอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มือถือเรียกว่า "พ็อกเก็ตพีซี"
4คอมพิวเตอร์ยุคใหม่
ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์มีเเนวโน้มที่สูงขึ่นเรื่อยๆ เเละนำมาใช้งานที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ่น จากเดิมบางหน่อยงานนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการพิมพ์เอกสานหรืองานสำนักงาน โอยไม่ได้คำนึงการเขื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย เเต่ปัจจุบันสามารถโอนถ่ายข้อมูลถึงกันอย่างรวดเร็ว
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ มีการออกเเบบปรับปรุงขนาดให้เล็กลงเเละมีรูปเเบบที่เเปลกตามากยิ่งขึ่น เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยุคใหม่ ดังตัวอย่าง
1เดสก์ท๊อป เป็นคอมพิวเตอร์เเบบตั้งโต๊ะที่ใช้ในสำนักงานหรือตามบ้านทั่วไป นิยมใช้สำหรับพิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟังเพลง
2โน๊ดบุ๊คยุคใหม่ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กเเละบางลง
3เดสโน๊ต หรือเพาเวอร์โน้ต เป็นคอมพิวเตอร์พกพา ที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับคอมพิวเตอร์โน๊ดบุ๊ค
ความเเตกต่างระหว่างเดสก์โน้ตกับโน้ตบุ๊ค
1.เเบตเตอรี่เดสโน้ตได้ถูกออกเเบบให้มีการนำเเบตเตอรี่ออกมาไว้ด้านนอกทำให้ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาใช้งาน
2.ซีพียูของเดสโน๊ดใช้ซีพียูประเภทเดียวกับพีซีทั่วไปสามารถอัพเกรดได้ในราคาที่ไม่สูง
3.การ์ดเเสดงผล ส่วนใหญ่จะติดตั้งมาให้ในเครื่องเเละไม่สามารถทำการอัพเกรดได้
4.เดสก์โน้ตมีราคาถูกกว่าโน๊ดบุ๊ค
5.เดสก์โน้ตจะไม่มี floppy disk drive
4.เเท็บเล็ตพีซี คือเครื่องคอมพิวเอตร์ที่สามารถใช้ปากกาเขียนลงไปบนจอได้เลยนั่นเอง
5.PDA: พีดีเอ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจดบันทึก เก็บข้อมูล เตือนเวลานัดหมาย
6.สมาร์ทโฟน คือ การพัฒนาโทรศัพย์ธรรมดาให้กลายเป็นอัจฉริยะนั่นเอง นอกจากรับสายเข้าหรือโทรออกเเล้ว สมารถถ่ายรูป เล่นอินเตอร์เน็ต
5คอมพิวเตอร์ในอนาคต
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำงานเเทนมนุษย์ มนุษย์เรียกคอมพิวเตอร์ว่าสมองกล เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรที่สร้างขึ่นมาให้คิดคำนวณเเทนมนุษย์
หุ่นยนต์ หรือโรบอต คือเครื่องจักรกลชนิดหนึ่งที่ใช้งานเเทนมนุษย์
ประโยชน์เเละความสามารถของหุ่นยน หุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของมนุษย์เรื่อยมา
ประเภทความสามารถของหุ่นยนต์
1.ความสามารถด้านการเเพทย์
2.ความสามารถในงานวิจัย
3.ความสามารถในงานอุตสาหกรรม
4.ความสามารถในงานด้านบริการ
6ปัญหาเเละข้อจำกัดของการใช้งานคอมพิวเตอร์
1.คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้ามาเเทนที่มนุษย์ได้100%
2.เเม้จะมีความสามารถในเรื่องของการคิดเเละตัดสินใจได้เเทนมนุษย์
3.ได้รับข้อมูลอย่างไรก็ประมวลผลไปตามนั้น
ส่วนปัญหาของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่พบมากที่สุดก็คือ
1.ความรู้ไม่ทันเทคโนโลยี ของผู้ใช้ที่ขาดทักษะบางประการ
2.ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่เพื่มขึ่น
3มนุษย์ต้องรู้จักเลือกใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้อง
4ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์
5ตระหนักถึงจริยธรรมในการใช้งานโดยทั่วไปที่จะไม่สร้างความเสียหายเเก่ผู้อื่น
e-banking ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์e-service บริการออนไลน์e-learning การเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์e-society การพัณนาด้านสังคมe-government การนำเทคโนโลยีสารสนเทศเเลพการสื่อสารมาใช้ประโยชน์ในการบริการตัวอย่างประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ที่นิยมเอาไปใช้ในงานด้านต่างๆ1.คอมพิวเตอร์กับการใช้งานของภาครัฐ2.คอมพิวเตอร์กับงานธุรกิจทั่วไป3.คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน4.คอมพิวเตอร์กับงานด้านการศึกษา5.คอมพิวเตอร์กับธุรกิจการนำเข้าเเละส่งออกสินค้า6.คอมพิวเตอร์กับงานธนาคาร7.คอมพิวเตอร์กับงานวิทยาศาสตร์8.คอมพิวเตอร์กับงานการเเพทย์3ประเภทของคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ที่เเตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน การจำเเนกประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งคอมเตอร์โดยทั่วไปอาจจำเเนกประเภทออกได้ 2 กลุ่ม ดังนี้1.เเบ่งตามลักษณะของข้อมูล มี 3 ประเภท คือ1.1 อนาล็อกคอมพิวเอตร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ่นเป็นพิเศษใช้กับงานเฉพาะอย่าง การทำงานใช้หลักการวัด ข้อมูลที่ป้อนเข้าไปต้องเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าที่มีค่าต่อเนื่อง
1.2ดิจิตอลคอมพิวเอตร์
เป็นคอมพิวเอตร์ที่ทำงานโดยใช้หลักการนับ ข้อมูลที่ป้อนกันเข้าไปต้องเป็นตัวเลขเเละให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นตัวเลขดีจิตอล
1.3ไฮบริดคอมพิวเอตร์
เป็นคอมพิวเอตร์ที่ใช้กับงานเฉพาะอย่าง การทำงานจะใช้เทคนิคของอนาล็อก เเละดิจิตอลมาผสมกัน
2เเบ่งตามขนาดเเละความสามารถ มี 5 ประเภท คือ
2.1ซูเปอร์คอมพิวเอตร์ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงที่สุด เเละราคาเเพงที่สุด
2.2เมนเฟรมคอมพิวเอตร์ เป้นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ทำงานกับอุปกรณ์หลายๆ อย่างด้วยความเร็วสูงใช้งานธุรกิจขนาดใหญ่
2.3มินิคอมพิวเอตร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่สรางขึ่นเพื่อใช้กับงานเฉาะอย่าง เช่น ใช้ในการสื่อสารข้อมูล
2.4ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด เพราะมีราคาถูก มักเรียกไมโครคอมพิวเตอร์ว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
2.5คอมพิวเตอร์มือถือ คอมพิวเตอร์มือถือมีมานานเเล้ว ตั่งเเต่ เเอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มือถือเรียกว่า "พ็อกเก็ตพีซี"
4คอมพิวเตอร์ยุคใหม่
ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์มีเเนวโน้มที่สูงขึ่นเรื่อยๆ เเละนำมาใช้งานที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ่น จากเดิมบางหน่อยงานนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการพิมพ์เอกสานหรืองานสำนักงาน โอยไม่ได้คำนึงการเขื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย เเต่ปัจจุบันสามารถโอนถ่ายข้อมูลถึงกันอย่างรวดเร็ว
ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ มีการออกเเบบปรับปรุงขนาดให้เล็กลงเเละมีรูปเเบบที่เเปลกตามากยิ่งขึ่น เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยุคใหม่ ดังตัวอย่าง
1เดสก์ท๊อป เป็นคอมพิวเตอร์เเบบตั้งโต๊ะที่ใช้ในสำนักงานหรือตามบ้านทั่วไป นิยมใช้สำหรับพิมพ์รายงาน ดูหนัง ฟังเพลง
2โน๊ดบุ๊คยุคใหม่ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กเเละบางลง
3เดสโน๊ต หรือเพาเวอร์โน้ต เป็นคอมพิวเตอร์พกพา ที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับคอมพิวเตอร์โน๊ดบุ๊ค
ความเเตกต่างระหว่างเดสก์โน้ตกับโน้ตบุ๊ค
1.เเบตเตอรี่เดสโน้ตได้ถูกออกเเบบให้มีการนำเเบตเตอรี่ออกมาไว้ด้านนอกทำให้ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาใช้งาน
2.ซีพียูของเดสโน๊ดใช้ซีพียูประเภทเดียวกับพีซีทั่วไปสามารถอัพเกรดได้ในราคาที่ไม่สูง
3.การ์ดเเสดงผล ส่วนใหญ่จะติดตั้งมาให้ในเครื่องเเละไม่สามารถทำการอัพเกรดได้
4.เดสก์โน้ตมีราคาถูกกว่าโน๊ดบุ๊ค
5.เดสก์โน้ตจะไม่มี floppy disk drive
4.เเท็บเล็ตพีซี คือเครื่องคอมพิวเอตร์ที่สามารถใช้ปากกาเขียนลงไปบนจอได้เลยนั่นเอง
5.PDA: พีดีเอ เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจดบันทึก เก็บข้อมูล เตือนเวลานัดหมาย
6.สมาร์ทโฟน คือ การพัฒนาโทรศัพย์ธรรมดาให้กลายเป็นอัจฉริยะนั่นเอง นอกจากรับสายเข้าหรือโทรออกเเล้ว สมารถถ่ายรูป เล่นอินเตอร์เน็ต
5คอมพิวเตอร์ในอนาคต
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทำงานเเทนมนุษย์ มนุษย์เรียกคอมพิวเตอร์ว่าสมองกล เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรที่สร้างขึ่นมาให้คิดคำนวณเเทนมนุษย์
หุ่นยนต์ หรือโรบอต คือเครื่องจักรกลชนิดหนึ่งที่ใช้งานเเทนมนุษย์
ประโยชน์เเละความสามารถของหุ่นยน หุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของมนุษย์เรื่อยมา
ประเภทความสามารถของหุ่นยนต์
1.ความสามารถด้านการเเพทย์
2.ความสามารถในงานวิจัย
3.ความสามารถในงานอุตสาหกรรม
4.ความสามารถในงานด้านบริการ
6ปัญหาเเละข้อจำกัดของการใช้งานคอมพิวเตอร์
1.คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้ามาเเทนที่มนุษย์ได้100%
2.เเม้จะมีความสามารถในเรื่องของการคิดเเละตัดสินใจได้เเทนมนุษย์
3.ได้รับข้อมูลอย่างไรก็ประมวลผลไปตามนั้น
ส่วนปัญหาของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่พบมากที่สุดก็คือ
1.ความรู้ไม่ทันเทคโนโลยี ของผู้ใช้ที่ขาดทักษะบางประการ
2.ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่เพื่มขึ่น
3มนุษย์ต้องรู้จักเลือกใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้อง
4ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์
5ตระหนักถึงจริยธรรมในการใช้งานโดยทั่วไปที่จะไม่สร้างความเสียหายเเก่ผู้อื่น
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
บทที่ 1 ความหมายและบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1>ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ"เทคโนโลยีสารสนเทศ" เรียกสั้นๆว่า (IT) หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสาร หรือ เรียกสั้นๆว่า(ICT)"เทคโนโลยีสารสนเทศ"ซึ่งเเต่ละคำมีความหมายดังนี้
1.1"เทคโนโลยี"หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ่น เพื่อช่วยในการทำงานหรือเเก้ปัญญาต่างๆ
1.2"สารสนเทศ"หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำข้อมูลดิบจากเเหล่งต่างๆ มาประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการเรียกว่า "สารสนเทศ"
1.3"เทคโนโลยีสารสนเทศ""เทคโนโลยีสารสนเทศ" ประกอบขึ่นจากเทคโนโลยีหลักที่สำคัญ 2 สาขา คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เเละ เทคโนโลยีการสื่อสารเเละโทรคมนาคมสาขาที่1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการบัญทึกข้อมูล การประมวลผลข้อมูล ตลอดจนการนำเสนอข้อมูลในรูปเเบบต่างๆสาขาที่2 เทคโนโลยีการสื่อสารเเละโทรคมนาคม ช่วยทำให้การเเผยเพร่ เเละ เเลกเปลี่ยนสารสนเทศง่ายมากยิ่งขึ่น
2>บทความของเทคโนโลยีสารสนเทศความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี
1.เทคโนโลยีช่วยเสริมปัจจัยพื้นฐาน
2.เทคโนโลยีช่วยทำให้มนุษย์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ่น
3.เทคโนโลยีช่วยทำให้การผลิตสินค้าเเละบริการต่างๆ
4.เทคโนโลยีช่วยทำให้ระบบการผลิต สามารถผลิตสินค้าทำได้จำนวนมาก
5.เทคโนโลยีช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารเป้นไปอย่างสะดวกเเละรวดเร็ว
3>องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบขึ่นจากเทคโนโลยีสองสาขา
1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์เป้นเครื่องมือทางอิเล็กทรอนนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ เเละปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า "ฮาร์ดเเวร์" เเละ ฮาร์ดเเวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรเเกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า"ซอฟต์เเวร์"
1.1 ฮาร์ดเเวร์ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ
1.อุปกรณ์รับข้อมูล
2.อุปกรณ์เเสดงผล
3.หน่วยประมวลผลกลาง
4.หน่วยความจำหลัก
5.ซอฟต์เเวร์
2 เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสาร รับส่งข้อมูลจากที่ไกลๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ ช่วยให้การเผยเเพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในเเหล่งต่างๆเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารหรือเผยเเพร่สารสนเทศได้เเก่ เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมทั้งสนิดสายเเละไร้สายนอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจำเเนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปเเบบคือ
1.เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ
2.เทคโนโลยีใช้ในการบันทึกข้อมูล เช่น เทปเเม่เหล็ก จานเเม่เหล็ก
3.เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้เเก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดเเวร์เเละซอฟต์เเวร์
4.เทคโนโลยีที่ใช้ในการเเสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์
5.เทคโนโลยีที่ใช้ในการจักทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร
6.เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้เเก่ ระบบโทรคมนาคมต่างๆเช่น โทรทัศน์วิทยุกระจายเสียง
4>ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการจากการนำเทคโนโลยสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร
1.ช่วยเพิ่มผลผลิตเเละประสิทธิภาพในการทำงาน
2.ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่อยู่มากมายให้มีระเบียบ
3.ช่วยให้การสื่อสารมีความเร็วขึ่น
4.เทคโนโลยีสารสนเทศบางอย่างเป็นอัตโนมัติ
5.ทำให้กระจายโอกาศเรียนรู้
6.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสารสนเทศ
7.ช่วยลดจำนวนบุคลากรในการประมวณผลเเละผลิตสารสนเทศ
8.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
5>การเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหัวข้อนี้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจ สามารถจำเเนกออกเป็น2หัวข้อ
1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน คือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในธุรกิจ ด้านการติอต่อสื่อสาร เทคโนโลยีที่นิยมนำมาใช้ในปัจจุบัน เช่น1.1เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
1.2เทคโนโลยีฐานข้อมูล
1.3เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ
1.4เทคโนโลยีด้านการชำระหนี้ค่าสินค้าหรือบริการ
1.5เทคโนโลยีด้านความมั่นคงของระบบข้อมูล
1.6เทคโนโลยีการทำดิจิทัลให้เหมาะที่สุด
1.7เทคโนโลยีไร้สาย
1.8เทคโนโลยีสำนักงานเสมือน
1.9เทคโนโลยีระบบประยุกต์ด้านการสื่อสาร
2.เเนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตผู้บริหารขององค์กรควรคำนึงการคัดเลือกเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่จะนำมาใช้ร่วมกับระบบสารสนเทศที่กำลังได้รับการพัฒนา ทั้งในปัจจุบันเเละในอนาคตดังนี้
2.1ชิป ปัจจุบันได้รับการผลิตชิปอิเล็กทรอนิกส์
2.2หน่วยเก็บ การปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยเก็บควบคู่ไปกับความเร็วในการประมวณผลของชิป
2.3สภาพเเวดล้อมเชิงออบเจกต์เป็นนวัตกรรมใหม่ในส่วนการเขียนโปรเเกรมเเละการใช้คอมพิวเตอร์
2.4เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ซ่อมบำรุงด้วยตนเอง
2.5คอมพิวเตอร์เเบบควอนตัมมีการศึกษาค้นคว้าซึ่งนำไปสู่การผลิตหน่วยคำนวณที่เล็กที่สุดของคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า"บิท"
2.6นาโนเทคโนโลยี ในอนาคตอาจมีการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประกอบจากโมเลกุลที่มีความเร็วสูงสุข
6>ประโยชน์ของเทคโนโลยี
1.ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา จึงต้องเอาเทคโนโลยีระบบสื่อสารมาประยุกต์ใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ควบคุมระบบปรับอากาศ
2.ช่วยทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมเทคโนโลยีสารสนเทศที่กระจายไปกระจายทั่วไปทั่วทุกแห่งทำให้ทุกคนสนใจ มีโอกาสในการเรียนรู้เท่าเทียมกัน เช่น ระบบการเรียนการสอนการสอนทางไกล
3.ประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ระบคอมพิวเตอร์มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการศึกษาต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายของกระทรวงศึกษาธิการ
4.ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรทางธรรมชาติหลายอย่าง เช่น ป่า เขา แม่น้ำ
5.ประโยชน์ต่อการป้องกันประเทศ อาวุธที่ใช้ทางการทหารยุคใหม่ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น เช่น จรวดที่สามารถวิ่งเข้าหาเป้าหมายได้อย่างอัตโนมัติ
6.ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมปละพณิชยกรรม การผลิตสินค้าและการจำหน่ายสินค้ามีการแข่งขันกันในตลาดโลกอย่างมากแบบฝึกหัดบทที่ 1 ตอนที่ 1 จงเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยี คือ สิ่งที่ให้มนุษย์พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่นอุปกรณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้
2. ความหมายของคำว่าสารสนเทศ คือ ข่าวสารที่ได้จากข้อมูลดิบจากแหล่งต่างๆ มาคำนวนทาสิถิติหรือผ่านการประวลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ถูกต้อง3. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการ โดยใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์
4. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอรืเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเก็บบันทึกข้อมูล การประมวลผลข้อมูลตลอดจนการนำเสนอข้อมุลในรุปแบบต่างๆ
5. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม คือ การพัฒนาให้มีความสามารถและมีประสิทธิภาพให้เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ
6. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้แก่
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
2.เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
7. ตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร คือ ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่อยู่อย่างมากมาย
8. ตัวอย่างโปรแกรมระบบปฏิบัติการ อย่างน้อย3ประการ คือ UNIX DOS WINDOW XP
9. ยกตัวอย่างแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต คือ นาโน
10. ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อสิ่งแวดล้อม คือ ลดภาวะโลกโลก สกรีนเซอเวอร์ตอนที่ 2 จงทำเครื่องหมายกากบาท X ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด
1.ตอบ ง
2.ตอบ ง.
3.ตอบ ก.
4.ตอบ ก.
5.ตอบ ข.
6.ตอบ ข.
7.ตอบ ก.
8.ตอบ ง.
9.ตอบ ก.
10.ตอบ ค.
11.ตอบ ง.
12.ตอบ ง.
13.ตอบ ก.
14.ตอบ ก.
15.ตอบ ง.
1.1"เทคโนโลยี"หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ่น เพื่อช่วยในการทำงานหรือเเก้ปัญญาต่างๆ
1.2"สารสนเทศ"หมายถึง ข่าวสารที่ได้จากการนำข้อมูลดิบจากเเหล่งต่างๆ มาประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการเรียกว่า "สารสนเทศ"
1.3"เทคโนโลยีสารสนเทศ""เทคโนโลยีสารสนเทศ" ประกอบขึ่นจากเทคโนโลยีหลักที่สำคัญ 2 สาขา คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เเละ เทคโนโลยีการสื่อสารเเละโทรคมนาคมสาขาที่1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการบัญทึกข้อมูล การประมวลผลข้อมูล ตลอดจนการนำเสนอข้อมูลในรูปเเบบต่างๆสาขาที่2 เทคโนโลยีการสื่อสารเเละโทรคมนาคม ช่วยทำให้การเเผยเพร่ เเละ เเลกเปลี่ยนสารสนเทศง่ายมากยิ่งขึ่น
2>บทความของเทคโนโลยีสารสนเทศความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี
1.เทคโนโลยีช่วยเสริมปัจจัยพื้นฐาน
2.เทคโนโลยีช่วยทำให้มนุษย์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ่น
3.เทคโนโลยีช่วยทำให้การผลิตสินค้าเเละบริการต่างๆ
4.เทคโนโลยีช่วยทำให้ระบบการผลิต สามารถผลิตสินค้าทำได้จำนวนมาก
5.เทคโนโลยีช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารเป้นไปอย่างสะดวกเเละรวดเร็ว
3>องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบขึ่นจากเทคโนโลยีสองสาขา
1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์เป้นเครื่องมือทางอิเล็กทรอนนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ เเละปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า "ฮาร์ดเเวร์" เเละ ฮาร์ดเเวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรเเกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า"ซอฟต์เเวร์"
1.1 ฮาร์ดเเวร์ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ
1.อุปกรณ์รับข้อมูล
2.อุปกรณ์เเสดงผล
3.หน่วยประมวลผลกลาง
4.หน่วยความจำหลัก
5.ซอฟต์เเวร์
2 เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสาร รับส่งข้อมูลจากที่ไกลๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ ช่วยให้การเผยเเพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในเเหล่งต่างๆเทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารหรือเผยเเพร่สารสนเทศได้เเก่ เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมทั้งสนิดสายเเละไร้สายนอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจำเเนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปเเบบคือ
1.เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ
2.เทคโนโลยีใช้ในการบันทึกข้อมูล เช่น เทปเเม่เหล็ก จานเเม่เหล็ก
3.เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้เเก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดเเวร์เเละซอฟต์เเวร์
4.เทคโนโลยีที่ใช้ในการเเสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์
5.เทคโนโลยีที่ใช้ในการจักทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร
6.เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้เเก่ ระบบโทรคมนาคมต่างๆเช่น โทรทัศน์วิทยุกระจายเสียง
4>ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการจากการนำเทคโนโลยสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร
1.ช่วยเพิ่มผลผลิตเเละประสิทธิภาพในการทำงาน
2.ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่อยู่มากมายให้มีระเบียบ
3.ช่วยให้การสื่อสารมีความเร็วขึ่น
4.เทคโนโลยีสารสนเทศบางอย่างเป็นอัตโนมัติ
5.ทำให้กระจายโอกาศเรียนรู้
6.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสารสนเทศ
7.ช่วยลดจำนวนบุคลากรในการประมวณผลเเละผลิตสารสนเทศ
8.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
5>การเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหัวข้อนี้เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจ สามารถจำเเนกออกเป็น2หัวข้อ
1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน คือการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในธุรกิจ ด้านการติอต่อสื่อสาร เทคโนโลยีที่นิยมนำมาใช้ในปัจจุบัน เช่น1.1เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
1.2เทคโนโลยีฐานข้อมูล
1.3เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ
1.4เทคโนโลยีด้านการชำระหนี้ค่าสินค้าหรือบริการ
1.5เทคโนโลยีด้านความมั่นคงของระบบข้อมูล
1.6เทคโนโลยีการทำดิจิทัลให้เหมาะที่สุด
1.7เทคโนโลยีไร้สาย
1.8เทคโนโลยีสำนักงานเสมือน
1.9เทคโนโลยีระบบประยุกต์ด้านการสื่อสาร
2.เเนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคตผู้บริหารขององค์กรควรคำนึงการคัดเลือกเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่จะนำมาใช้ร่วมกับระบบสารสนเทศที่กำลังได้รับการพัฒนา ทั้งในปัจจุบันเเละในอนาคตดังนี้
2.1ชิป ปัจจุบันได้รับการผลิตชิปอิเล็กทรอนิกส์
2.2หน่วยเก็บ การปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยเก็บควบคู่ไปกับความเร็วในการประมวณผลของชิป
2.3สภาพเเวดล้อมเชิงออบเจกต์เป็นนวัตกรรมใหม่ในส่วนการเขียนโปรเเกรมเเละการใช้คอมพิวเตอร์
2.4เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ซ่อมบำรุงด้วยตนเอง
2.5คอมพิวเตอร์เเบบควอนตัมมีการศึกษาค้นคว้าซึ่งนำไปสู่การผลิตหน่วยคำนวณที่เล็กที่สุดของคอมพิวเตอร์ ที่เรียกว่า"บิท"
2.6นาโนเทคโนโลยี ในอนาคตอาจมีการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประกอบจากโมเลกุลที่มีความเร็วสูงสุข
6>ประโยชน์ของเทคโนโลยี
1.ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา จึงต้องเอาเทคโนโลยีระบบสื่อสารมาประยุกต์ใช้กับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ควบคุมระบบปรับอากาศ
2.ช่วยทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมเทคโนโลยีสารสนเทศที่กระจายไปกระจายทั่วไปทั่วทุกแห่งทำให้ทุกคนสนใจ มีโอกาสในการเรียนรู้เท่าเทียมกัน เช่น ระบบการเรียนการสอนการสอนทางไกล
3.ประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในโรงเรียน ระบคอมพิวเตอร์มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการศึกษาต่างๆ เช่น ระบบเครือข่ายของกระทรวงศึกษาธิการ
4.ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรทางธรรมชาติหลายอย่าง เช่น ป่า เขา แม่น้ำ
5.ประโยชน์ต่อการป้องกันประเทศ อาวุธที่ใช้ทางการทหารยุคใหม่ เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น เช่น จรวดที่สามารถวิ่งเข้าหาเป้าหมายได้อย่างอัตโนมัติ
6.ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมปละพณิชยกรรม การผลิตสินค้าและการจำหน่ายสินค้ามีการแข่งขันกันในตลาดโลกอย่างมากแบบฝึกหัดบทที่ 1 ตอนที่ 1 จงเติมคำลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยี คือ สิ่งที่ให้มนุษย์พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่นอุปกรณ์ต่างๆ หรือสิ่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้
2. ความหมายของคำว่าสารสนเทศ คือ ข่าวสารที่ได้จากข้อมูลดิบจากแหล่งต่างๆ มาคำนวนทาสิถิติหรือผ่านการประวลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ถูกต้อง3. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการ โดยใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่น คอมพิวเตอร์
4. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอรืเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเก็บบันทึกข้อมูล การประมวลผลข้อมูลตลอดจนการนำเสนอข้อมุลในรุปแบบต่างๆ
5. ความหมายของคำว่า เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม คือ การพัฒนาให้มีความสามารถและมีประสิทธิภาพให้เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ
6. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้แก่
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
2.เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
7. ตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในองค์กร คือ ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่อยู่อย่างมากมาย
8. ตัวอย่างโปรแกรมระบบปฏิบัติการ อย่างน้อย3ประการ คือ UNIX DOS WINDOW XP
9. ยกตัวอย่างแนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต คือ นาโน
10. ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อสิ่งแวดล้อม คือ ลดภาวะโลกโลก สกรีนเซอเวอร์ตอนที่ 2 จงทำเครื่องหมายกากบาท X ลงหน้าข้อที่ถูกต้องที่สุด
1.ตอบ ง
2.ตอบ ง.
3.ตอบ ก.
4.ตอบ ก.
5.ตอบ ข.
6.ตอบ ข.
7.ตอบ ก.
8.ตอบ ง.
9.ตอบ ก.
10.ตอบ ค.
11.ตอบ ง.
12.ตอบ ง.
13.ตอบ ก.
14.ตอบ ก.
15.ตอบ ง.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)